[OS] ยิ้ม [Junhoe x Donghyuk]
ผู้เข้าชมรวม
669
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
คาเฟ่ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ติดกับถนนสายเส้นเล็กๆ รายล้อมด้วยต้นเมเปิ้ลที่ปลูกเรียงรายไปตลอดแนวถนน ยามเมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาเยือน ใบสีแดงๆของมันก็จะร่วงหล่นเต็มพื้นถนน ทำให้ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยใบเมเปิ้ลสีแดงสวยที่ปูไปบนพื้นเสมือนกับพรมกำมะหยี่สีแดงสด
สายลมเอื่อยๆโชยผ่าน พัดพาใบไม้สีแดงสวยค่อยๆหลุดร่วงลงพื้นทีละใบสองใบ มันดูสวยและโรแมนติกอย่างบอกไม่ถูก ถ้าคุณมีแฟนเดินด้วยอะนะ แต่สำหรับผมที่ไม่มีแฟนมันช่างเป็นบรรยากาศที่เงียบและเหงา แต่ก็แล้วไงล่ะ มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไรกับความเหงาพวกนี้ ก็แค่มีแฟนมันก็ดี แต่ไม่มีผมก็เฉยๆ ทุกวันนี้ได้ทำงานในคาเฟ่ของตัวเอง ได้ทำงานที่ตัวเองรักได้คิดสูตรกาแฟ ใหม่ๆ อาจจะเหนื่อยบ้าง แต่แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว ไม่เห็นต้องมีใครมาเติมเต็มชีวิตผมเลย……..
ถ้าเพียงวันนั้นผมไม่เผลอมอง ความคิดของผมมันก็คงไม่เปลี่ยนไป แค่วันนั้นวันเดียว วันที่สายตาผมหันไปเจอกับรอยยิ้มหวานที่ส่งให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา รอยยิ้มที่ได้เปลี่ยนแปลงความรู้สึกของผมไป เปลี่ยนความรู้สึกที่ว่าไม่มีคนข้างกายก็ไม่เห็นเป็นไร มันเปลี่ยนไปเพียงแค่เผลอสบตา เผลอมองรอยยิ้มหวานนั้น มันก็รู้สึกว่าอยากให้เขาคนนี้ตื่นมายิ้มให้กันในยามเช้า พร้อมกับกลิ่นกาแฟหอมกรุ่นที่ผมจะเสิร์ฟให้เขาคนเดียวทุกวันบนเตียงนอน ผมก็คงจะ............
ผ่านมาเกือบเดือนแล้วตั้งแต่ได้เจอเขาวันนั้น และวันนี้มันก็ช่างแปลก อยู่ๆฝนก็ตกลง แต่มันกลับทำให้จิตใจผมเต้นรัว ไม่ใช่เพราะผมดีใจที่ฝนที่ตกลงมานะ แต่เป็นเพราะว่าคนที่มากลับฝนตั้งหาก
คนที่ผมอยากให้เขาตื่นมายิ้มให้กันในยามเช้า เขากำลังวิ่งหาที่หลบฝนหลงฤดู ที่กำลังตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา และวิ่งมาทางคาเฟ่ของผมอย่างรวดเร็ว หัวใจของผมรู้สึกกระตุกทันทีที่คนตัวเล็กหันมายิ้มและก้มโค้งเล็กๆให้ พร้อมกับส่งยิ้มหวานนั้นมาให้อีกแล้ว อย่ายิ้มบ่อยนักสิมันทำให้หัวใจฉันกระตุก จนอยากจะดึงนายเข้ามากอดให้รับรู้การเต้นของหัวใจฉันแล้วนะ คนไรเนี่ยยิ้มน่ารักมีเสน่ห์ อ่า ...
……...ตึกๆ….ตึกๆ…...ตึก
มือเรียวยาวยกขึ้นทุบหน้าอกตัวเองสองสามที เงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาจนรู้สึกดีขึ้นจึงหันไปสนใจคนตัวเล็กตรงหน้าอีกครั้ง แต่ก็โดนกระชากลมหายใจด้วยดวงตาที่ยกขึ้นจนเหลือเพียงเส้นโค้งของจันทร์เสี้ยวกับยิ้มหวานสวยที่กำลังส่งมาให้เขาในระยะประชิด หัวใจของจุนฮเวก็เต้นแรงเหมือนกับจะเป็นระเบิดออกมาข้างนอก
คนตัวเล็กที่ยืนห่างกันเพียงแค่เคาท์เตอร์กั้น ยืนยิ้มหวานพร้อมกับเสียงเล็กๆหวาน ที่สั่งกาแฟรสหวานหอมชวนลิ้มลองอย่างลาเต้คาราเมล
เขาแอบมองคนตัวเล็กที่ยืนเลือกเครื่องดื่มจนสั่งเสร็จแล้ว ก็รีบก้มหน้าก้มตาทำกาแฟ ก้มหน้าพูดกับคนตัวเล็กไม่ยอมหันไปสบตาอีกคน
“เดี๋ยวนำไปเสิร์ฟให้นะครับ เชิญเลือกที่นั่งตามสบายได้เลยครับ”
“ขอบคุณครับ”
บริกรหนุ่มหล่อที่ปกติจะไม่เดินออกจากเคาท์เตอร์ไปเสิร์ฟให้ใครง่ายๆ แต่วันนี้กลับเดินไปเสิร์ฟเอง เรียกความสนใจให้กับพี่ชายที่ยืนชงกาแฟอยู่ใกล้ๆอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนที่พี่ชายเขาจะให้ไปกระชิปกับคนรัก ให้พอได้ยินกันแค่สองคน
“นี่ฮันนี่ จินนี่ว่าน้องเน่ของเค้า ต้องมีอะไรแน่ๆเลยล่ะ อาการแปลกๆ ปกตินะต่อให้คนเยอะแค่ไหนก็ไม่เคยคิดที่จะไปเสิร์ฟเองเลยนะ ทั้งที่สาวๆ ออกจะเรียกร้องให้ไปหาจะตาย”
“ก็แล้วจินนี่จะไปยุ่งกับเน่ทำไม ดูต่อไปเถอะ”
“ก็ จินนี่อยากรู้นี่หน่า ฮันนี่อะ ชอบขัดใจตลอดเลย งอนแล้วด้วย”
“โอ๋นะๆ อย่างอนนะครับ เดี๋ยวจะเตี้ยลงอีกนะ คราวนี้จะเหลือแค่13เซนต์จริงๆนะครับ ฮ่าๆๆๆๆ”
“คิมฮันบิน!!!! เค้าไม่คุยด้วยแล่ว เชอะงอน คืนนี้นอนนอกห้องเลย แบร่ๆ”
“เฮ้ๆ พี่สองคนเล่นอะไรกันเนี่ย เหมือนเด็กเลย แล้วถ้าจะหวานเชิญประตูหลังครับ”
“ก็พี่นายอะดิ อุ๊บ.....”
“ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะเน่ พี่ก็แค่ถามอะไรฮันบินนิดหน่อยอ่ะจ๊ะ”
“อ่อครับ งั้นก็ไปทำงานต่อสิครับ พี่ฮันบินช่วยไปเสิร์ฟโต๊ะอื่นด้วยครับ แต่ถ้าโต๊ะตรงนั้นบอกผมเดี๋ยวผมไปเสิร์ฟเองนะครับ”
“ครับบบบ น้องเขย เดี๋ยวพี่คนนี้จะปฏิบัติตามอย่างดีเลยครับ นี่กูต้องเป็นเบ้ให้ทั้งพี่ทั้งน้องเลยใช่ไหมวะเนี่ย”
“บ่นอะไรจ๊ะ ฮันนี่ รีบไปทำงานสิจ๊ะที่รัก ฮิฮิ แต่ไงก็นอนนอกห้องนะจ๊ะ ฮันนี่ จุ๊บๆ’’
…….คิดว่ากลัวหรอจินนี่ ฮันนี่มีกุญแจสำรองนะจ๊ะที่รัก หึหึ……..
“จ้า นอนนอกห้องก็นอกห้องจ้า ที่รัก”
“พี่ฮันบินเอากาแฟไปเสิร์ฟสิพี่ ช้าอยู่นั้นแหละ พี่จินก็เหมือนกันจะเล่นกันอีกนานไหมครับเนี่ย”
“จ้าน้องเขย/จ้าคุณน้องบังเกิดเกล้า”
“เฮ้อ/เฮ้อ”
ร่างสูงกลับไปประจำที่เขา แล้วลงมือล้างแก้วจนเสร็จก็ยกมาหน้าเคาท์เตอร์แอบลอบมอง ร่างบางของหนุ่มน้อยตัวเล็กน่ารัก ที่กำลังนั่งละเลียดลิ้มริมชิมรสกาแฟหวานหอม รอเวลาให้ฝนที่ตกกระหน่ำด้านนอกซาลง ดวงตาหวานเหลือเพียงเส้นโค้งบางๆ เมื่อเจ้าตัวยกยิ้มขึ้นอย่างอารมณ์ดี ทำให้คนมองอดยิ้มตามไม่ได้ เขาส่ายหัวให้ตัวเองน้อยๆ แล้วชำเลืองมองต่อเป็นระยะๆ
ดงฮยอกนั่งจับจ้องสายฝนที่ไหลเป็นคลื่นๆลงมาตามบานกระจกกว้างอย่างสนอกสนใจ ริมฝีปากยกยิ้มขึ้นอย่างอารมณ์ดี มองน้ำที่ไหลเป็นสายลงมาบดบังทัศนียภาพภายนอกจนเหลือเพียงเงารางๆของสิ่งที่เคลื่อนไหวผ่านไปผ่านมา แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกมีความสุขและสนุกกับภาพที่บิดเบี้ยวไม่เป็นรูปไม่เป็นร่าง ภาพแปลกๆเหล่านั่น ที่ถูกสายน้ำทำให้มีรูปร่างประหลาดและตลกในสายตาคนตัวเล็ก แสงของรถที่ตกกระทบน้ำบนบานกระจกที่ไหลลงมาเกิดเป็นสีต่างๆกระจายไปทั่วบานกระจกก็ดูสวยแปลกตา ทำให้เขาอดที่จะ ส่งเสียงหัวเราะคิกคักออกมาไม่ได้ มือเล็กค่อยๆเลื่อนไปสัมผัสกับบานกระจกที่มีไอน้ำเกาะจนเกิดขึ้นเป็นฝ้า นิ้วเรียวเล็กลากไล้หยอกล้อกับแสงที่กำลังที่เต้นระบำกับหยดน้ำภายนอก มือบางยกขึ้นวาดรูปเล่นไปเรื่อยๆ แล้วอยู่ๆเขาก็ปัดมือละเลงลบสิ่งที่เขาวาดอยู่อย่างรวดเร็ว
หลังจากสายตาเขาเห็นสิ่งที่ตัวเองวาดไว้ คนตัวเล็กรีบมองซ้ายมองขวา ว่ามีใครเห็นไหม แต่ก็ไม่เห็นว่ามีคนมอง จึงหันมายิ้มให้ตัวเอง แต่เขาจะรู้ไหมนะ ว่าไม่ทันแล้วเพราะตอนนี้มีคนเห็นเข้าให้แล้ว แต่อย่าเรียกว่าเห็นเลย เรียกว่าแอบมองตั้งแต่คนตัวเล็กเข้ามาในร้านแล้วมากกว่า
ดงฮยอก
ผมไม่รู้อะไรดลใจให้ผมวาดคำนี้ Love ลงบนหน้าต่างหรือผมอาจกำลังคิดอะไรเพลินๆก็ได้มั้ง แต่มีคนเคยบอกว่า สิ่งเราเผลอทำมันออกมาโดยที่เราไม่ได้ใช้สมองคิด มันคือสิ่งเราคิดหรือเรากำลังต้องการอยู่ แล้วผมคิดคิดถึงใครล่ะ ผมต้องการใครกัน หรือจะเป็นคนที่ผมยิ้มให้เขาทุกวัน คนที่ทำให้ผมต้องเดินกลับมาทางนี้ทุกๆวันเพื่อที่จะได้เจอเขานั่งดื่มกาแฟอยู่หน้าคาเฟ่ หวังว่าเขาคงไม่เห็นนะ....
เขาก้มหน้ายิ้มให้กับตัวเอง แล้วหันมานั่งมองสายน้ำที่ค่อยไหลลงมาเป็นคลื่นๆ มองสิ่งที่เคลื่อนไหวเป็นรูปร่างแปลกๆ ด้วยความอารมณ์ดีต่อไป ผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้ว แต่ฝนก็ยังไม่หยุดตก คนตัวเล็กเริ่มจะเบื่อแล้ว จึงหันไปหยิบโทรศัพท์ ขึ้นมากดฟังเพลง พร้อมกับฮัมเบาๆในใจ แต่แล้วเขาก็เผลอขยับริมฝีปากส่งเสียงร้องเพลงที่ตัวเองนั่งฮัมอยู่ออกมา เสียงหวานๆเล็กๆ ที่ขยับร้องเพลงเบาๆ รอยมาตามลมจนคนที่แอบมองอยู่อดอมยิ้มตามไม่ได้ เขารีบหันหน้าหนีไปเมื่อคนตัวเล็กหันมา แล้วทำเป็นก้มหน้าก้มตาเช็ดแก้วต่อไป
เขาอดที่จะคิดไม่ได้ว่าเสียงหวานที่ว่าหวานแล้วตอนสั่งเครื่องดื่ม แต่ตอนที่เผลอร้องเพลงออกมากลับหวานแล้วก็ใสมากกว่า เขาชักอยากได้ยินตอนคุยกับเขาแบบปกติแล้วสิ จะเหมือนตอนสั่งเครื่องดื่ม หรือเหมือนตอนร้องเพลงกันนะ
ทุกวันเวลาเดิมๆ คนตัวเล็กคนนี้จะเดินผ่านหน้าร้านเขา พร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานให้คนที่เดินสวนไปมา ไม่เว้นแม้กระทั่งเขาที่นั่งชิมกาแฟรสใหม่ที่เขาเพิ่งคิดขึ้น คนตัวเล็กก็ยังหันมายิ้มหวานให้ แล้วก็เดินผ่านเหมือนไม่คิดอะไร แต่คนตัวเล็กจะรู้ไหมนะว่าเพียงแค่ยิ้มเดียว ยิ้มนั้น รอยยิ้มที่เขาไม่อยากจะให้คนๆนี้ ส่งมันไปให้กับใครอีก มันเป็นยิ้มที่ติดตา ตรึงใจเขามาจนทุกวันนี้
ทุกวันเวลาเดิมๆเขาจะต้องออกไปนั่งหน้าร้านรอให้คนตัวเล็กคนนี้เดินผ่านมา แล้วเหมือนเดิมเพียงแค่รอยยิ้มมันก็ทำให้เขาหายเหนื่อยจากงานที่ทำอยู่ทุกวัน ไม่จำเป็นต้องคุย ไม่จำเป็นต้องรู้จัก แต่เพียงแค่รอยยิ้มสดใส กับใบหน้าหวานๆ ก็ทำให้เขามีความสุขได้ แต่ถ้าหากขอได้เขาอยากรู้จักร่างบางตรงหน้านี้แบบจริงจังสักครั้ง จะได้ไหมนะ....................
แต่แค่คิดมันคงไม่มีวันเป็นจริงใช่ไหม สงสัยต้อง……..
คิดเสร็จคนตัวสูงก็เดินไปทิ้งตัวลงนั่งข้างๆคนตัวเล็ก พร้อมกับผลักแก้วกาแฟแก้วใบที่เขาเพิ่งชงเสร็จไปให้คนตัวเล็กตรงหน้า
ดงฮยอกสะดุ้งกับการมานั่งโดยที่ไม่บอกไม่กล่าว หัวใจเต้นแรงขึ้น แต่ก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หันหน้าไม่ถามคนที่นั่งข้างๆ
“อะไรครับเนี่ย ผมไม่ได้สั่งนะ”
เมื่อได้ยินคำถามของคนตัวเล็กแล้ว ร่างสูงของจุนฮเวก็ก้มหน้าลงมากระซิบที่ข้างหูคนตัวเล็กเบาๆ แทนที่จะตอบแบบธรรมดา เล่นเอาคนตัวเล็กตกใจมาก กับการขยับเข้ามาชิดกันแบบนี้
………...อะ……………….
“ชู่ๆ เบาๆสิ เป็นบริการพิเศษ อย่าบอกใครนะ เฉพาะคนยิ้มสวย”
พูดเสร็จจุนฮเวก็หันไปสบตาคนตัวเล็กที่ทำหน้าตกใจ ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อ แล้วก้มหน้าลงแก้วกาแฟในมือแล้วไม่พูดอะไร ส่วนคนข้างๆก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน ได้แต่เท้าคางมองใบหน้าคนตัวเล็กอยู่ใกล้ๆ จนอีกคนทำให้อะไรไม่ถูก แสร้งก้มลงไปชิมกาแฟที่คนตัวสูงนำมาให้ รสหวานนุ่มลิ้นกับกลิ่นกาแฟที่ผสมกับนม ความอุ่นของแก้วกาแฟที่คนตัวเล็กถูไปถูมา ริมฝีปากยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจ เพลิดเพลินกับรสกาแฟจนลืมคนข้างๆ ไปสนิท
……อะ…..
ดงฮยอกร้องเบาๆตกใจกับมือเรียวสวยที่ไล้สัมผัสเช็ดริมฝีปากเขา พอหันไปจะเอาเรื่องก็รีบหันกลับมาเมื่อเห็นสายตาที่จ้องมองเขาอยู่ก่อนแล้ว แถมกำลังชิมรสกาแฟที่เช็ดจากปากเขาไปอีกด้วย
“รู้สึกกาแฟที่ชงให้จะหวานไปนะ หรือว่าปากนายหวานกันแน่นะ”
“ทำแบบนี้ทำไม”
“ทำแบบไหนล่ะ ที่ให้กาแฟ ที่นั่งมองหน้า หรือว่าที่เช็ดปากให้”
“ก็ทั้งหมดนั้นแหละ ต้องการอะไร”
“ต้องการคนรู้ใจ แล้วก็เหมือนว่าคนนั้นกำลังนั่งอยู่ตรงหน้าด้วย”
“หะ ห๊ะ บ้าแล้ว ใครๆ”
“ไม่บ้าหรอก ถ้าจะบ้าก็คงบ้าตั้งแต่วันที่นายยิ้มให้แล้ว บ้าที่ไม่กล้าทักนาย ปล่อยให้ผ่านมาเป็นเดือนๆ แล้วก็ยังบ้าที่กำลังจะขอคบด้วย จะยอมคบด้วยไหมล่ะครับ”
“จะคบได้ไง ชื่อก็ยังไม่รู้จัก แค่เห็นหน้ากันไม่เท่าไร ไม่เคยคุยด้วยซ้ำ จะคบกันแล้ว ง่ายไปนะ”
“กูจุนฮเว ยินดีที่ได้รู้จัก แล้วเขาก็บอกว่าความรู้สึกชอบหรือรักไม่ได้เกิดจากสมอง มันเกิดจากความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ ว่าเรารู้จักคนนี้เมื่อไร คนนี้ชื่ออะไร แต่แค่รู้สึกว่าอยากอยู่ใกล้ อยากให้คนนี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต อยากเห็นรอยยิ้มที่เติมเต็มความสุขของวันใหม่ที่เราได้ตื่นนอนขึ้นมาพร้อมกัน ฉันก็แค่อยากให้นายเป็นคนนั้น จะเป็นให้ได้ไหมครับ”
“ก็ ก็ไม่รู้สิ อยากกลับบ้านแล้วไปส่งหน่อยสิ ไม่มีร่ม”
คนตัวเล็กไม่หันไปมองคนข้างๆเลยสักนิดรีบเดินไปที่ประตูคาเฟ่ แล้วหันไปตะโกนใส่คนตัวสูงที่กำลังจะเดินไปหยิบร่มตรงเคาท์เตอร์เสียงดัง
“เราชื่อ คิมดงฮยอกนะ”
แล้วรีบวิ่งหนีไปไม่รอให้อีกคนไปส่ง แต่พี่เขยคนตัวสูงก็รีบโยนร่มให้แล้วตะโกนใส่หน้าคนตัวสูง
“ยืนบื้ออยู่ทำไมเล่า เขาตอบรับแล้วไอเน่ ตามไปดิว่ะ ยังไม่ได้เบอร์ไม่ใช่ ถ้าพลาดเขาอาจจะหายไปก็ได้นะเว้ย”
“ขอบใจ แต่ที่หลังไม่ต้อง เก็บร้านด้วย”
จุนฮเวรีบวิ่งตามดงฮยอกไป เห็นหลังคนตัวเล็กที่กำลังวิ่งไวไวห่างออกไปสักสองสามร้อยเมตรได้ แล้วคนตัวเล็กก็หยุดวิ่งลง ยืนหอบๆแล้วเปลี่ยนเป็นเดินช้าๆ จุนฮเวรีบวิ่งไปจนถึงตัวคนตัวเล็ก ก่อนจะคว้าข้อมือบางไว้
“อ่ะ อะ จะตามมาทำไม โอ้ยตามมาทำไมเนี่ย”
...................ไม่รู้หรอไง ว่าทำตัวไม่ถูกคนบ้า ตามมาทำไมเนี่ย....................
ดงฮยอกหันไปพูดกับคนตัวสูงแล้วมองข้อมือที่ถูกกุมอยู่ ใบหน้าเล็กๆเริ่มขึ้นสี พยายามแกะมือคนตัวสูงออก อีกคนเหมือนจะรู้สึกตัวจึงค่อยๆปล่อยมืออกจากข้อมือคนตัวเล็ก แต่เปลี่ยนกุมมือคนตัวเล็กไว้แทน ทำเป็นไม่สนใจคนตัวเล็กที่พยายามจะแกะมือเขาออก
“บอกชื่อกันแล้ว ไม่รอให้ยินดีรู้จักกันหน่อยหรอ”
“ก็ๆ บอกชื่อแล้วไง ยินดีที่ได้รู้จัก ตามมาทำไม”
“ก็อยากเดินไปส่ง แล้วหนีทำไมล่ะ ไหนจะให้ไปส่งไง”
“ก็ๆ คิดได้ว่ามันได้ดีที่จะให้คนเพิ่งรู้จักไปส่ง”
“งั้นนี้ก็ไปส่งได้ใช่ป่ะ รู้จักกันแล้วนี่”
“ไม่รู้ ขอเวลาเราหน่อยไม่ได้หรือไง มันเร็วเราตั้งตัวไม่ทัน”
“แล้วต้องนานเท่าไหร่ล่ะ”
“ก็จนกว่าเราจะมองหน้าจุนฮเวแล้วใจเราไม่เต้นแรง ไม่ทำตัวไม่ถูกแบบนี้”
“งั้นสงสัยจุนเน่ คงต้องรอดงฮยอก ไปจนแก่ล่ะมั้ง”
“ทำไมล่ะ เราว่าคงไม่ขนาดนั้นมั้ง เวอร์ไปแล้วนายน่ะ”
“เราไม่เวอร์หรอก เอามือมาสิ”
ร่างสูงจับมือของร่างบางขึ้นมาวางลงบนตำแหน่งที่มีจังหวะ เต้นตึกตัก ตึกตัก หนักๆจนมือบางสัมผัสถึงมันได้
“ได้คำตอบแล้วใช่ไหม เพราะหัวใจฉันคงไม่หยุดเต้นแรงกับนายได้ ถ้ามันจะหยุดเต้นแรงก็ต่อเมื่อฉันไม่รู้สึกอะไรกับนายแล้ว หรือฉันอาจจะตายจากไปเท่านั้น ซึ่งอย่างแรกก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะฉันเป็นพวกประเภทถ้ารักก็จะวิ่งเข้าหา แต่ถ้าไม่ใช่ก็ไม่วันอยู่ในสายตา เตรียมรับความรักจากฉันได้เลย ท่านลูกค้ากิตติมศักดิ์ เมดจุนเน่ยินดีต้อนรับสู่คาเฟ่แห่งหัวใจที่ไม่มีวันมีทางออก”
………………จุ๊บ........................
ร่างสูงพูดจบก็ก้มลงปิดริมฝีปากของร่างบางเบาๆ แล้วดึงอีกคนเข้ามากอดท่ามกลางความหนาวชื้นของอากาศของหลังฝนตก รอบตัวของทั้งสองคนเต็มไปด้วยใบไม้สีแดงที่กำลังค่อยๆร่วงหล่น ที่ละใบสองใบอย่างช้าๆ ก่อนที่ทั้งสองคนจะค่อยผละออกจากกัน ถอยมายืนสบตากันเนิ่นนาน แล้วร่างสูงก็เดินจูงมือร่างบางไปตามทางที่โรยไปด้วยใบไม้สีแดงสวย เหมือนเขากำลังพาร่างบางเดินบนเส้นทางที่กำลังเข้าสู่หัวใจและความรักของเขา เข้าสู่คาเฟ่ของหัวใจ คาเฟ่ที่จะมีเขาเป็นเมดคอยบริการแขกคนสำคัญอย่างคิมดงฮยอกตลอดไป..............................................
1 ปีต่อมา
กลิ่นหอมๆของกาแฟถูกนำมาจ่อที่จมูกร่างบางที่ยังคงหลับสนิทอยู่บนเตียงสีขาวสะอาด พร้อมกับริมฝีปากหนาของร่างหนาที่กดลงข้างแก้มนิ่มๆของร่างบาง
………………ฟอด.....................
“ดงดงครับ”
……………..หื้อ.......หื้อ............
“ดงดงครับ ตื่นเถอะวันนี้มีประชุมนะครับ ไม่ตื่นจุนเน่จะจูบอรุณสวัสดิ์นะ แล้วไม่รับรองว่าจะได้ไปประชุมหรือเปล่า”
“หื้อๆ ตะ ตื่นแล้วครับ”
……………..จุ๊บ............................
ร่างบางขยับตัวขึ้นจุ๊บปากคนตัวสูงเบาๆ พร้อมกับส่งยิ้มหวานให้จุนฮเว แล้วรับกาแฟไว้ในมือเอียงหัวไปพิงไหล่คนตัวสูง เงยหน้าขึ้นมองอีกคนที่กำลังก้มหน้าลงมาจูบอรุณสวัสดิ์เขาเบาๆ พร้อมกับเขาขยับตัวไปหอมแก้มซ้ายของคนตัวสูงแล้วยกกาแฟที่อีกคนชงมาให้ขึ้นมาดื่ม เหมือนทุกวันที่เขายังคงอยู่ด้วยกัน มอบความรักให้กันและกัน และสิ่งที่ไม่เคยจางหายไปนั้นก็คือยิ้ม ไม่ว่าเราจะมีความสุข หรือทุกข์เราก็ยังจะยิ้มให้กันไม่ว่าจะเป็นยิ้มที่ให้กำลังใจ หรือยิ้มดีใจ ยิ้มที่ทำให้เกิดความรักของเรา ยิ้มที่ทำให้เราได้มารู้จักกัน
รักนะ มายเมดของฉัน
ดงฮยอก
รักมากนะ มายยิ้มของฉัน
จุนฮเว
From wirter : ปล.ขอมอบฟิคให้คาเฟ่จุนดงนะครับ
ปล.เป็นการแต่งฟิคใสๆ แบบนี้ครั้งแรก เป็นไงมั้งครับ
----------------------------------------------------
เมด : ขอบคุณสำหรับฟิคน่ารักๆเรื่องนี้มากๆเลยนะคะ ><
อย่าลืมคอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์ด้วยนะคะ
ผลงานอื่นๆ ของ JunDongZone ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ JunDongZone
ความคิดเห็น